ระบบขับเคลื่อนเครื่องสูบน้ำดับเพลิง จะแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ
- ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า สำหรับเครื่องสูบน้ำดับเพลิงที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า จะต้องใช้กำลังไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟที่เชื่อถือได้ เช่นจ่ายโดยตรงจากหม้อแปลงไฟฟ้า หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
- ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล สำหรับเครื่องสูบน้ำดับเพลิงที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลนั้นจะสามารถแยกได้ 2 แบบ
2.1 ระบบ Heat Exchanger Cooled คือ ระบบหล่อเย็นด้วยน้ำ โดยใช้เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน
2.2 ระบบ Radiator Cooled คือ ระบบหล่อเย็นด้วยน้ำ โดยใช้รังผึ้งระบายความร้อนด้วยพัดลมจากเครื่องยนต์
Fire Pump (ปั๊มน้ำดับเพลิง) ปั๊มน้ำ คือ อุปกรณ์ที่ช่วยส่งผ่านพลังงาน จากแหล่งต้นกำเนิดไปยังของเหลว ก๊าซ หรือ ของเหลวที่มีของแข็งเป็นส่วนประกอบ (Slurries) เพื่อทำให้ของเหลวเคลื่อนที่จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่งที่อยู่สูงกว่าหรือ ในระยะทางที่ไกลออกไป โดยการเพิ่มพลังงานเข้าไปในระบบ ปั๊มน้ำดับเพลิง (Fire Pump) เป็นส่วนหนึ่งของระบบน้ำดับเพลิงแบบสปริงเกอร์ (Fire Sprinkler)หรือระบบ Fire Hose ที่จะทำหน้าที่ป้อนน้ำเข้าสู่ระบบด้วยปริมาณและแรงดันที่เพียงพอต่อการทำงานของระบบดับเพลิง(Fire pump system) ที่ออกแบบไว้
ระบบปั๊มน้ำดับเพลิง (Fire pump system) ประกอบด้วย
• เครื่องสูบน้ำรักษาแรงดัน (Jockey Pump)
• เครื่องสูบน้ำดับเพลิง (Fire Pump)
• ตู้ควบคุมเครื่องสูบน้ำรักษาแรงดัน (Jockey Pump Controller)
• ตู้ควบคุมเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (Fire Pump Controller)
• Pressure Relief Valve
ขนาดของเครื่องสูบน้ำดับเพลิง (Fire Pump)
ตามมาตรฐานสากลนั้น มีการกำหนดขนาดของเครื่องสูบน้ำดับเพลิงได้อย่างชัดเจน ซึ่งในการเลือกใช้จะต้องเลือกให้อยู่ในขนาดที่ระบุไว้ตามตาราง
ลิตร/นาที (แกลลอน/นาที) | ลิตร/นาที (แกลลอน/นาที) | ลิตร/นาที (แกลลอน/นาที) |
1. 95 (25) | 8. 1,514 (400) | 15. 7,570 (2,000) |
2. 189 (50) | 9. 1,703 (450) | 16. 9,462 (2,500) |
3. 379 (100) | 10. 1,892 (500) | 17. 11,355 (3,000) |
4. 568 (150) | 11. 2,839 (750) | 18. 13,247 (3,500) |
5. 757 (200) | 12. 3,785 (1,000) | 19. 15,140 (4,000) |
6. 946 (250) | 13. 4,731 (1,250) | 20. 17,032 (4,500) |
7. 1,136 (300) | 14. 5,677 (1,500) | 21. 18,925 (5,000) |
ระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิงได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานโดยอัตโนมัติ โดยจะรักษาความดันน้ำภายในท่อให้พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลา โดยจะตั้ง ระดับความดันที่สวิทช์ความดัน (Pressure Switch) ไว้ 3 ระดับ สมมุติเช่น
– ระดับความดันที่ 1 (100 Psi.) จะทำให้ Jockey Pump ทำงาน
– ระดับความดันที่ 2 (120 Psi.) จะทำให้ Jockey Pump หยุดทำงาน (เป็นระดับความดันภายในท่อปกติ)
– ระดับความดันที่ 3 (80 Psi.) จะทำให้ Fire Pump ทำงาน
ในภาวะปกติถ้าความดันของน้ำภายในท่อลดลงต่ำกว่าที่ตั้งเอาไว้ที่สวิตช์ความดันระดับที่1 เช่น ระบบท่อมีการรั่วซึมเล็กน้อย จะทำให้เครื่องสูบน้ำ JOCKEY PUMP ทำงานจนกระทั่งภายในท่อมีความดันตามที่กำหนด (ระดับความดันที่ 2) จึงจะหยุดทำงาน
ถ้ามีการดึงสายฉีดน้ำดับเพลิงออกมาใช้งานจะทำให้เกิดความดันลดลงอย่างรวดเร็ว Jockey Pump ก็จะทำงาน แต่ทำงานแล้วยังไม่สามารถ ควบคุมความดันไว้ให้สูงกว่าระดับความดันที่ 3 ฉะนั้นเมื่อความดันน้ำในท่อลดลงมาถึงระดับความดันที่ 3 เครื่องสูบน้ำ Fire Pump ก็จะทำงานทันที
เมื่อหยุดใช้สายฉีดน้ำดับเพลิงแล้ว ความดันในท่อจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับความดันที่ 2 Jockey Pump ก็จะหยุดทำงาน แต่เครื่องสูบน้ำ Fire Pump จะไม่หยุดทำงาน จะต้องมีคนไปปิดสวิทช์หยุดการทำงานของ Fire Pump ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะถ้าให้เครื่องสูบน้ำ Fire Pump หยุดทำงานอัตโนมัติ อาจเกิดปัญหาเมื่อเครื่องยนต์หยุดการทำงานเองขณะที่มีเหตุเพลิงไหม้ได้ ฉะนั้นตามมาตรฐาน NFPA 20 จึงแนะนำให้การทำงานของระบบ Fire Pump เป็นแบบเริ่มทำงานแบบอัตโนมัติและหยุดการทำงานด้วยมือ
สำหรับระบบการป้องกันของเครื่องยนต์โดยให้หยุดการทำงาน มีกรณีเดียว คือความเร็วรอบเกิน (Over Speed) เพราะจะเป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายกับปั๊มน้ำ หรือทำให้ความดันน้ำในท่อมากเกินไปซึ่งอาจทำให้เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ต่างๆในระบบท่อ แต่ในการติดตั้งระบบดับเพลิงก็จะมีการติดตั้ง Pressure Relife Valve ซึ่งเป็นอุปกรณ์ระบายน้ำ เมื่อมีความดันน้ำในท่อมากเกินความต้องการของระบบ
สำหรับการป้องกันเครื่องสูบน้ำดับเพลิงในกรณีอื่น ได้แก่
– ระดับแรงดันน้ำมันเครื่องต่ำกว่าปกติ
– อุณหภูมิของเครื่องยนต์สูงเกินปกติ ,
– ไม่มีไฟ 220 โวลท์ AC. เข้ามาจ่ายเข้าตู้ควบคุม
– แบตเตอรี่ชุดที่ 1 หรือชุดที่ 2 เสื่อม
เมื่อเกิดเหตุกรณีดังกล่าวขึ้น ก็จะมีเสียงกระดิ่งเตือน และสัญญาณไฟโชว์ที่หน้าตู้ แต่เครื่องยนต์จะไม่ดับต้องให้คนมาเป็นคนดับเครื่องเองเท่านั้น
สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3211
Recent Posts
- B.Grimm joins forces with PETRONAS Lubricants International to explore and develop potential opportunities in Thailand and South East Asia Energy Market
- B.Grimm Ventures into EV Charging Station Business and Launches the First EV Charging Station in River City Bangkok, Paving the Way for Sustainable Investments
- B.Grimm Launches Multi-Functional Facade & Lighting Solution
- บี.กริม เทรดดิ้ง ร่วมแบ่งปันความสุขให้กับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กพัทยา
- สัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนแอร์ได้แล้ว