การตรวจสอบเครื่องสูบน้ำดับเพลิงอย่างง่าย

การตรวจสอบเครื่องสูบน้ำดับเพลิงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีความพร้อมในการใช้งาน ต้องทำงานได้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด การตรวจสอบหรือทดสอบเครื่อง มี 4 รูปแบบ

  • ตรวจทุกวัน
  • ตรวจทุกสัปดาห์
  • ตรวจทุก 6 เดือน
  • ตรวจทุก 1 ปี

ตรวจทุกวัน

  • ดูแลระบบทั่วๆไป อยู่ในสภาพปกติ
  • ดูมาตรวัดแรงดันน้ำในระบบ
  • ดูเครื่องบันทึกแรงดันน้ำในระบบ
  • ดูระบบไฟฟ้า กระแสและแรงดัน
  • ไฟฟ้าที่ตู้ควบคุมและที่เครื่องยนต์

ตรวจทุกสัปดาห์

  • ระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่
  • สายไฟต่างๆตรึงแน่น
  • ตรวจระดับน้ำมันเครื่องและกรองน้ำมันเครื่อง
  • ตรวจระดับน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ตรวจระบบหล่อเย็นเครื่อง

ตรวจทุก 6 เดือน

  • ตรวจระบบท่อจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ตรวจกรองอากาศ
  • ตรวจสายพานขับ
  • ตรวจชุดควบคุมความเร็วรอบ
  • ตรวจระบบท่อระบายไอเสีย
  • ตรวจชุดชาร์จแบตเตอรี่
  • ตรวจสวิตช์คันโยกมือ
  • ตรวจแผงควบคุมเครื่อง
  • ทุกรายการของการตรวจทุกสัปดาห์

ตรวจทุก 1 ปี

  • เปลี่ยนน้ำมันเครื่องและกรองอากาศน้ำมันเครื่อง
  • เปลี่ยนกรองอากาศ
  • เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง
  • ทุกรายการของการตรวจทุก 6 เดือน
การดูแลรักษาเครื่องยนต์
การตรวจเช็คทั่วไป
  1. ตรวจสอบระดับน้ำและทำความสะอาดระบบระบายความร้อน
  2. เปลี่ยนท่อยางต่าง ๆ เท่าที่จำเป็น
  3. ตรวจทำความสะอาดขั้วไฟฟ้าต่าง ๆ และขั่วแบตเตอรี่
  4. ตรวจดูระบบท่อไอเสีย
  5. ตรวจดูสกรูยึดแท่นเครื่องต่าง ๆ
  6. ตรวจเช็คระยะกันรุนของข้อเหวี่ยง
  7. ตรวจดูระบบไดชาร์จ
  8. ตรวจดูระบบมอเตอร์สตาร์ทและเยนเนอเรเตอร์
  9. ควรตรวจเช็คตามมาตรฐานของผู้ผลิต

หมายเหตุ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องควรจะเปลี่ยนหลังจากใช้งาน 50 ชั่วโมงแรก แล้วจึงเริ่มนับเวลาใหม่

ข้อแนะนำในการใช้แบตเตอรี่

  1. แบตเตอรี่ต้องติดตั้งอย่างแน่นหนาในที่สำหรับติดตั้ง
  2. สายไฟสำหรับต่อระหว่างขั้ว ควรจะติดให้แน่นและยาวพอสมควร เพื่อป้องกันการลัดวงจร
  3. การขันขั้วแบตเตอรี่ควรใช้กุญแจปากตายอย่าใช้วิธีปิดกับขั้ว เพราะจะทำให้ขั้วชำรุด
  4. รักษาแบตเตอรี่ให้สะอาด โดยเฉพาะที่ระบายอากาศของฝาเติมน้ำ อย่าให้มีผงฝุ่นอุดตัน
  5. รักษาแบตเตอรี่ส่วนบนให้สะอาดอยู่เสมอ ถ้าขั้วสกปรกหรือมีคราบขาวเกาะให้ล้างด้วยน้ำร้อนและทาวาสลินที่ขั้ว
  6. ถ้าสตาร์ทติดยาก หรือวัด ถพ. ได้ต่ำกว่า 1,200 แสดงว่าไฟไม่พอ ให้นำแบตเตอรี่ไปชาร์จไฟจนกว่าจะเต็ม
  7. ถ้าเก็บแบตเตอรี่ไว้โดยไม่ได้ใช้ หรือใช้ไม่สม่ำเสมอควรนำมาชาร์จไฟอย่างน้อยเดือน ละครั้ง
  8. ในกรณีที่แบตเตอรี่ไฟหมด โปรดนำไปตรวจที่ร้านผู้แทนจำหน่ายแบตเตอรี่ไม่ควรเทน้ำกรดทิ้งแล้วเติมน้ำกรดใหม่ เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสียหายได้

สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3211