สัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนแอร์ได้แล้ว

สัญญาน ว่าควรเปลี่ยน แอร์ บ้าน

สัญญาณเตือนว่าควรเปลี่ยนแอร์ได้แล้ว

เปลี่ยนแอร์

ช่วงนี้คนส่วนใหญ่ต่างทำงานจากที่บ้านและเรียนหนังสือทางออนไลน์ แน่นอนว่าด้วยสภาพอากาศทำให้เราต้องเปิดแอร์แทบจะทุกวัน ทำให้เครื่องต้องทำงานหนักขึ้นและเสื่อมสภาพตามการใช้งาน หากแอร์ตัวเก่าที่บ้านของคุณเริ่มส่งสัญญาณดังต่อไปนี้ อาจถึงเวลาที่คุณต้องมองหาแอร์บ้านตัวใหม่ได้แล้ว

ใช้งานมานานเกิน 10 ปี
หากแอร์ของคุณได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี โดยทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ร่วม 10 ปีเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามทุกอย่างย่อมเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา ประสิทธิภาพที่ลดลงก็ตามมาด้วยการกินไฟที่มากขึ้น แถมแอร์ยิ่งเก่าอะไหล่ก็ยิ่งหายาก เวลาจะซ่อมทีก็ลำบาก ในขณะที่แอร์รุ่นใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดไฟและฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

กินไฟผิดปกติ
หากค่าไฟพุ่งสูงขึ้นผิดปกติ นั่นเป็นสัญญาณว่าแอร์ของคุณเริ่มเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว เปลี่ยนไปเลือกรุ่นประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือแบบระบบอินเวอร์เตอร์ ที่ช่วยประหยัดได้เพิ่มขึ้นถึง 40% และช่วยยืดอายุการใช้งานอีกด้วย

คอมเพรสเซอร์เสื่อมสภาพ เสียงดัง
แอร์ที่ใช้งานมานาน มีโอกาสที่แผงคอยล์ร้อนที่ชุดคอมเพรสเซอร์จะผุกร่อนจากการเผชิญสภาพอากาศมาเป็นระยะเวลายาวนาน แอร์รุ่นใหม่มีการเคลือบสารบลูฟินทำให้แผงคอยล์ร้อนทนต่อการกัดกร่อน (จากกรดจากฝนหรือสารพิษในอากาศ) นอกจากนี้คอมเพรสเซอร์ที่เสื่อมสภาพยังทำให้แอร์มีเสียงดังอีกด้วย

ไม่เย็น
หากแอร์ของคุณไม่เย็น ไม่ว่าจะล้างแอร์ก็แล้ว เติมน้ำยาแอร์ก็แล้ว นี่คือสัญญาณว่าแอร์ของคุณเสื่อมสภาพและถึงเวลามองหาแอร์เครื่องใหม่ได้แล้ว

เสียบ่อย
โดยทั่วไปแอร์มักไม่ค่อยมีปัญหา แต่หากคุณต้องตามช่างมาซ่อมแอร์ของคุณบ่อยๆ แล้วล่ะก็ คงถึงเวลาพิจารณาซื้อเครื่องใหม่ได้แล้ว เพราะคำนวณค่าซ่อม ค่าอะไหล่ แถมค่าเสียเวลาแต่ละครั้งแล้ว การแอร์ซื้อเครื่องใหม่ดูจะคุ้มค่ากว่า

หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแอร์บ้านตัวใหม่ บี.กริม เทรดดิ้ง มีทีมงานมืออาชีพที่คอยให้คำปรึกษา เราเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ Carrier ไม่ว่าจะเป็นแอร์ติดผนังหรือแอร์ฝังฝ้า แคเรียร์สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยนวัตกรรมของระบบการทำงานที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ทนทาน ประหยัดพลังงาน รวมถึงบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างครบวงจรโดยพนักงานมืออาชีพ

🛒 ช้อปเลย https://bit.ly/3C7rFVP

สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3242
Line :  https://lin.ee/ItAW7DS  @bgrimmtrading

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต ต่างกันอย่างไรและควรป้องกันอย่างไร​

ไฟดูด ไฟรั่ว

ไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต ต่างกันอย่างไรและควรป้องกันอย่างไร

infographic Electric shock

อุบัติเหตุจากไฟรั่ว ไฟดูด ไฟช็อต ถือเป็นภัยใกล้ตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบ้านของคุณมีระบบไฟฟ้าที่เริ่มเสื่อมสภาพตามกาลเวลา เพื่อความไม่ประมาท เรามาดูวิธีป้องกันไม่ให้ภัยเหล่านี้ลุกลามจนเกิดเป็นเพลิงไหม้แบบไม่คาดฝันกัน  

ไฟรั่ว..ไฟดูด..ไฟช็อตคือ?

ไฟรั่ว คือการที่กระแสไฟฟ้ารั่วไหลจากวงจรไฟฟ้าไปสู่ภายนอก เช่นผิวของสายไฟหรือโครงโลหะของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า หากสัมผัสอาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเดินสายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน การขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า การใช้งานที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการเสื่อมสภาพของฉนวนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้มาเป็นเวลานาน ซึ่งจุดที่เกิดกระแสไฟฟ้ารั่ว จะมีกระแสไฟฟ้าไหลจนเกิดความร้อนขึ้นและหากความร้อนสะสมเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการติด ไฟจนเป็นสาเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ได้

ไฟดูด เกิดขึ้นเมื่อร่างกายไปสัมผัสส่วนที่มีไฟฟ้าหรือกับสายไฟที่มีการรั่ว ทำให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายและลงสู่พื้นดิน ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกร็ง อาจส่งผลให้หัวใจทำงานผิดจังหวะ และเต้นอ่อนลงจนหยุดเต้นและเสียชีวิตในที่สุด สาเหตุของไฟดูดเกิดขึ้นได้จากหลายกรณี เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุดทำให้มีกระแสไฟรั่วออกมา เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดูดขึ้น สิ่งแรกที่ควรทำคือตัดกระแสไฟฟ้าให้เร็วที่สุดโดยการถอดปลั๊ก ปิดเมนสวิตช์ ปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บ และนำส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด

ไฟช็อต คือไฟฟ้าลัดวงจร เกิดจากการโอนกระแสไฟฟ้าจากสายไฟเส้นหนึ่งไปยังเส้นอื่น ๆ โดยที่ไม่ได้ผ่านอุปกรณ์โหลด หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ จนเกิดความร้อนสูง และอาจทำให้เกิดประกายไฟและไฟไหม้ได้ สาเหตุส่วนใหญ่ที่พบคือฉนวนของตัวสายไฟชำรุด หรือเกิดการแตะกันโดยบังเอิญ

เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟรั่ว ไฟดูด หรือไฟช็อต เรามีวิธีที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ มาฝากกัน

ติดตั้งระบบไฟฟ้าที่มีสายดิน
สายดินมีความสำคัญและเป็นมาตรการหลักในการช่วยป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว เนื่องจากกระแสไฟฟ้าที่อาจรั่วไหลจากเครื่องใช้ไฟฟ้าจะไหลลงดินผ่านทางสายดิน แทนที่จะไหลผ่านร่างกายของเรา

ตรวจเช็คมิเตอร์ไฟฟ้า
ในเบื้องต้น คุณสามารถทดสอบมิเตอร์ไฟฟ้าเพื่อให้แน่ใจอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยการปิดสวิตช์ไฟทุกจุด รวมทั้งถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ออกให้หมด แล้วจึงตรวจเช็คมิเตอร์ที่หน้าบ้านว่าเฟืองเหล็กยังหมุนอยู่หรือไม่ หากยังหมุนอยู่แสดงว่ามีกระแสไฟรั่ว ให้รีบติดต่อช่างไฟเพื่อแก้ไขโดยด่วน

ตรวจเช็คโดยใช้ไขควงวัดไฟฟ้า
อีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า คือการใช้ไขควงวัดไฟฟ้าแตะที่ตัวโลหะของเครื่องใช้ไฟฟ้า หากมีแสงไฟในด้ามไขสว่างขึ้น แสดงว่ามีไฟฟ้ารั่ว ให้หยุดใช้งานในทันที

ตรวจเช็คสายไฟฟ้า
ตรวจเช็คสายไฟฟ้าว่ามีส่วนใดชำรุดเสียหายหรือไม่ หากพบให้รีบเปลี่ยนใหม่ โดยเฉพาะสายไฟที่ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดานที่อาจเปื่อยตามอายุการใช้งาน หรืออาจหนูกัดแทะฉนวนจนสายขาดได้ (ในกรณีที่ไม่ได้หุ้มสายไว้ด้วยท่อร้อยสายไฟ)

ตรวจเช็คเต้ารับไฟฟ้า
ตรวจสอบเต้ารับไฟฟ้าดูว่าหลวม มีรอยแตกร้าวหรือรอยไหม้บ้างหรือไม่ ถ้าเต้ารับหลวมก็ขันสกรูให้แน่นดังเดิม แต่ถ้ามีการแตกร้าวหรือพบรอยไหม้ก็ควรเปลี่ยนใหม่ และควรทดสอบเต้ารับทุกจุดว่ามีไฟหรือเปล่า โดยสามารถใช้ไขควงวัดไฟแตะทดสอบ

ข้อควรระวัง

หลีกเลี่ยงการสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือวงจรไฟฟ้าในขณะที่ร่างกายเปียกชื้น หรือยืนอยู่บนที่เปียกแฉะ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นโลหะของอุปกรณ์ไฟฟ้า หากจำเป็นต้องสัมผัสให้ใช้วัสดุที่เป็นฉนวนไฟฟ้าปูพื้น เช่น แผ่นไม้แห้ง, แผ่นยาง, แผ่นพลาสติค และหากสงสัยว่ามีไฟรั่ว ให้ใช้ไขควงเช็คไฟตรวจสอบจุดที่สัมผัสก่อน
ไม่ควรประมาทเพราะหากไฟรั่วเกิน 30 มิลลิแอมป์ขึ้นไป อาจทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตได้

SIEMENS Breaker RCBO กันไฟดูด-ไฟรั่ว-ไฟเกิน-ไฟช็อต

นอกเหนือจากวิธีตรวจเช็คต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว บี.กริม เทรดดิ้ง ขอแนะนำวิธีที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด คือการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว หรือเครื่องตัดไฟรั่ว

เบรกเกอร์กันไฟรั่ว/ไฟดูด/ไฟเกิน/ไฟช็อต (RCBO) รุ่น 5SU9 จากซีเมนส์ เป็นอุปกรณ์ที่รวมคุณสมบัติของ RCCB และ MCB (เซอร์กิตเบรกเกอร์ลูกย่อย) เข้าไว้ด้วยกัน สามารถตัดวงจรอัตโนมัติเมื่อมีค่ากระแสไฟรั่ว 10 มิลลิแอมป์ และ 30 มิลลิแอมป์ เหมาะสำหรับใช้ป้องกันไฟดูดแก่ผู้อยู่อาศัย และป้องกันไฟรั่วของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่ภายนอกอาคาร มีตัวบอกสถานะการทำงานของอุปกรณ์ ทำให้สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อเกิดเหตุขัดข้อง

หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำ บี.กริม เทรดดิ้ง มีทีมงานมืออาชีพที่คอยให้คำปรึกษา เราเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าจากซีเมนส์ มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ทนทาน ประหยัดพลังงาน รวมถึงบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างครบวงจรโดยพนักงานมืออาชีพ ติดต่อเราได้เลย ที่นี่

สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3232
Line :  https://lin.ee/ItAW7DS  @bgrimmtrading

บี.กริม เทรดดิ้ง คว้ารางวัล Sustainable Growth Award 2020 – Smart Infrastructure จาก ซีเมนส์ ประเทศไทย

บี.กริม เทรดดิ้ง คว้ารางวัล Sustainable Growth Award 2020 – Smart Infrastructure จาก ซีเมนส์ ประเทศไทย

คุณอานนท์ กุลวงษ์วาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์เปอเรชั่น จำกัด รับมอบรางวัลเกียรติคุณ Sustainable Growth Award 2020 – Smart Infrastructure จาก คุณสุวรรณี สิงห์ฤาเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและ ซีอีโอ ซีเมนส์ ประเทศไทย ซึ่งเป็นผลสำเร็จมาจากยอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าแรงดันไฟฟ้าต่ำ (Low Voltage) สำหรับรางวัล Sustainable Growth เป็นรางวัลที่ซีเมนส์มอบให้กับคู่ค้าทางธุรกิจที่มีการเติบโตธุรกิจทางธุรกิจกับซีเมนส์ต่อเนื่องและยั่งยืน โดยทำยอดได้ถึงเป้าหมายที่ตกลงกันไว้ และมีเปอร์เซ็นต์การเติบโตเฉลี่ยต่อเนื่อง 3 ปี (CAGR) สูงสุด

ทั้งนี้ บริษัท บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงดันต่ำ (Low Voltage) แบรนด์ Siemens มานานกว่า 20 ปี โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายให้กับกลุ่มร้านค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า ผู้รับเหมา และดีเวลลอปเปอร์ในไทย โดยบริษัทได้มุ่งเป้าในการเพิ่มรายได้ และเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเลือกจำหน่ายแบรนด์ที่ขึ้นชื่อในด้านความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และคุณภาพในระดับโลก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีคุณภาพ และ สร้างสรรค์

bgrimm-trading-Siemens  

บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ www.bgrimmtrading.com

บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ www.bgrimmtechnologies.com

บริษัท บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ www.bgrimmtechnologies.com ที่สามารถเปิดใช้ได้ทุกอุปกรณ์เคลื่อนที่ มือถือ หรือ แท็บแลต มาพร้อมเนื้อหา และข้อมูลสินค้า คุณสมบัติของสินค้า ภาพผลงานโปรเจคต่างๆ ที่ บี.กริม เทรดดิ้ง เป็นตัวแทนจำหน่ายและติดตั้ง

ทั้งนี้ บริษัท บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น เป็นตัวแทนจำหน่ายแและให้บริการผลิตภัณฑ์ทางด้านวิศวกรรมจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และอีกหลายประเทศทั่วโลก บี.กริม เทรดดิ้งเป็นส่วนหนึ่งของบี.กริม ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำรงอยู่คู่ประเทศไทยมายาวนาน ผลิตภัณฑ์ของเราครอบคลุมผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าจากซีเมนส์ ระบบปั๊มดับเพลิงจากแพตเตอร์สัน ระบบปรับอากาศจากแคเรียร์ ระบบล็อคอิเล็กทรอนิกส์สำหรับโรงแรมจากโอนิตี้ ระบบโซล่าเซลล์ และอีกมากมาย

ช่องทางติดต่อ สามารถติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ www.bgrimmtechnologies.com หรือทางเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/B.GrimmTrading/ และอีกหนึ่งช่องทางที่ https://shopee.co.th/bgtc_online โดยท่านสามารถซื้อสินค้า เบรกเกอร์ ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต สวิตช์ และ เต้ารับ ซีเมนส์ผ่านช่องทางนี้

เราพร้อมปรับปรุงเว็บ เพิ่มข้อมูลข่าวสาร และสาระความรู้ต่างๆเกี่ยวกับสินค้า ให้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้นไป และพร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับทุกท่านที่เข้ามาค้นหาข้อมูลสินค้าจากเว็บไซต์องเรา

B.Grimm and SCG units join forces to offer cutting-edge industrial solutions

Bgrimm & scg

Mr Goetschmann, third right, and Mr Chokchai, second right, mark the B.Grimm-SCG cooperation signing ceremony.
The two sides plan to offer cutting-edge industrial solutions.

B.Grimm and SCG units join forces to offer cutting-edge industrial solutions

B.Grimm Joint Venture Holding Co (BGJV) has signed a cooperation agreement with Rayong Engineering and Plant Service Co (REPCO), a subsidiary of Siam Cement Group’s (SCG) chemical business, to offer cutting-edge industrial solutions.

The collaboration between the subsidiaries of B.Grimm Group and SCG is meant to offer integrated product and service support as well as Internet of Things (IoT) solutions to power plants, oil refineries, chemical factories and other industries.

They will be supported by a platform that can perform predictive analytics through artificial intelligence and machine learning to enable early warning, preventing parts or equipment from being damaged.

Fabrice Goetschmann, president of B.Grimm Industrial Businesses, said the partnership strengthens the relationship between B.Grimm and SCG, while raising the level of Thailand’s industrial standards with the most advanced innovations and solutions.

In the past, both sides have collaborated for several important activities together such as jointly providing engineering studies to customers.

There are more than 10 other collaborative projects in the pipeline that the two parties are contemplating.
B.Grimm is confident more projects will be implemented in the future, noting this partnership will be part of its long-term growth plan.

B.Grimm has vowed to provide the best support for REPCO’s business and its customers’ projects.
REPCO managing director Chokchai Montreeamornchet said the cooperation underscores the vision the two sides share in becoming leaders in innovation and industry solutions.

“We are ready to bring our 30 years of experience as a fully integrated asset management operator in the chemical industry as well as the use of IoT technology to help customers. When combined with B.Grimm’s expertise in enhancing the reliability and productivity of our customers, this should be a useful partnership,” he said.
Established in 1878, B.Grimm is one of Thailand’s leading conglomerates with diversified business in four streams: energy equipment, cooling systems, transport and construction products.

REPCO offers one-stop engineering solution and maintenance services, backed by 30 years of experience in overseeing and managing maintenance of SCG’s petrochemical plants.

B.Grimm Trading เจาะตลาดอีคอมเมิร์ชเพิ่มช่องทางขายใหม่ผ่าน Shopee

BGTC shopee

B.Grimm Trading เจาะตลาดอีคอมเมิร์ชเพิ่มช่องทางขายใหม่ผ่าน Shopee

บริษัท บี.กริม เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น เปิดขายสินค้าบน Shopee เพื่อขยายช่องทางการขายใหม่เจาะตลาดนักช็อปออนไลน์ในยุคนิวนอร์มอลเป็นการเพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีพฤติกรรมซื้อสินค้าบนออนไลน์ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่จะช่วยผลักดันและส่งผลให้ยอดขายบนออนไลน์เติบโตขึ้นได้

ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าที่บริษัทฯเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ อาทิ เช่น แบรนด์ ซีเมนส์ กลุ่มสินค้าเบรกเกอร์ ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิต สวิตช์ และ เต้ารับ, แบรนด์แคเรียร์ แอร์ คอนดิชั่นนิ่ง ในราคาที่เข้าถึงง่าย พร้อมผ่อนชำระ 0% 10 เดือน, แบรนด์ Trinahome ออล-อิน-วัน แพคเกจสำหรับการติดตั้งโซล่าเซลล์สำหรับบ้าน, แบรนด์ Huawei จำหน่ายสินค้า Inverter พร้อมประกันศูนย์ไทยสูงสุด 10ปี และแบรนด์ Lapp Kabel สายไฟโซล่าเซลล์ โดยสามารถแชทเพื่อสอบถามข้อมูลกับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆเข้ามาใน Shopee ในราคาพิเศษอีกด้วย

สนใจสินค้าของเรา คลิกดูได้เลยที่ https://shopee.co.th/bgtc_online

BGTC_Shopee

อยู่บ้านปลอดโควิด อย่าลืมตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้า

checklist electrical

อยู่บ้านปลอดโควิด อย่าลืมตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้า

safety-home-check-the-electrical

เมื่อการทำงานจากที่บ้านได้กลายเป็นวิถีชีวิตใหม่ของทุกคนไปเสียแล้ว การใช้งานไฟฟ้าในบ้านจึงเพิ่มมากขึ้นตามกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ทำงาน เปิดแอร์ พัดลม หลอดไฟ ทีวี ฯลฯ ทุกอย่างล้วนต่อกับระบบไฟฟ้าของบ้านแทบทั้งนั้น ดังนั้น คุณจึงควรแน่ใจว่าการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่มากขึ้นนี้ จะยังคงปลอดภัยและไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าเกิดขึ้นกับบ้านและสมาชิกในครอบครัวของคุณ

ตรวจเช็คตู้ไฟฟ้าของคุณ

วิธีที่ทำได้ง่ายๆ คือการสำรวจตู้คอนซูเมอร์ยูนิต หรือตู้ไฟฟ้าในบ้านของเรา เนื่องจากตู้คอนซูมเมอร์เป็นตู้ที่ใช้จัดการระบบการจ่ายไฟฟ้าจากมิเตอร์สู่บ้าน ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เซอร์กิตเบรคเกอร์หลัก เซอร์กิตเบรคเกอร์ลูกย่อย และอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วไฟดูด พูดง่ายๆ คือเป็นจุดเชื่อมโยงการใช้ไฟฟ้าต่างๆ ในบ้านทั้งหมด อีกทั้งยังทำหน้าที่ตัดวงจรไฟฟ้าหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ไฟดูด ไฟเกิน ไฟช็อต ไฟรั่ว ที่อาจลุกลามไปจนถึงไฟไหม้ เราจึงควรหมั่นตรวจบำรุงและตรวจสอบระบบการทำงานเพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราเองและบ้านอยู่เสมอ

สัญญาณเตือนว่าตู้ไฟฟ้าของคุณกำลังมีปัญหา

แม้ว่าตู้คอนซูมเมอร์จะไม่มีเกณฑ์อายุการใช้งานที่ตายตัว แต่คุณสามารถตรวจสอบได้ดังนี้

  • มีการขึ้นสนิมหรือไม่ ฝาตู้ยังต้องใช้งานได้ปกติ สามารถปิดได้สนิท แข็งแรง
  • มีกลิ่นไหม้หรือกลิ่นแปลกๆ ซึ่งอาจเกิดจากตู้ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือปลอกสายไฟละลาย
  • เป็นรุ่นที่ไม่รองรับการเก็บสายไฟและการเดินสายไฟแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ไฟดูด ไฟช็อต
  • มีอาการตู้ร้อนบ่อยครั้ง เนื่องจากระบบระบายความร้อนที่ไม่เพียงพอ

ตู้ไฟฟ้าของคุณได้มาตรฐานหรือไม่?

สำหรับเมืองไทยตู้คอนซูมเมอร์จะต้องมีสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์ มอก. ซึ่งเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมติดอยู่หน้าตู้ไฟฟ้า แต่สำหรับบางแบรนด์ที่มีการทดสอบเพิ่มเติม เช่น การทนต่อการเกิดสนิม การลามไฟ การใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง คุณจะเห็นสติ๊กเกอร์สัญลักษณ์มาตรฐานสากล IEC ทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ติดร่วมด้วย

มีการรับประกันกี่ปี?

โดยทั่วไปตู้คอนซูมเมอร์ยูนิตจะมีการรับประกันสินค้าประมาณ 1 ปี – 5 ปี ในขณะที่บางแบรนด์รับประกันสินค้านานถึง 12 ปี เลยทีเดียว โดยสามารถดูจากใบรับประกันหรือที่สติ๊กเกอร์กันลอกที่ติดอยู่กับตู้ หากมีการรับประกันนาน ก็น่าจะทำให้แน่ใจได้ถึงความคงทนของตู้ไฟฟ้าแบรนด์นั้นๆ

มีอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว–ไฟดูด (RCCB/RCBO) ติดตั้งกับตู้ไฟฟ้าเดิมหรือไม่?

ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2559 การขอมิเตอร์ไฟฟ้าบ้านมีข้อกำหนดว่าจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์กันไฟรั่วไฟดูดร่วมด้วย ดังนั้นจึงควรตรวจสอบว่าตู้ไฟของเรามีอุปกรณ์ดังกล่าวการติดตั้งมาด้วยหรือไม่ ซึ่งโดยทั่วไปเครื่องตัดไฟรั่วจะมีปุ่มสำหรับกดทดสอบการทำงาน (Test Button) ถ้าสำรวจแล้วตู้ไฟของเรายังไม่มีอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วไฟหรือไฟดูดในวงจรเลย ให้ติดตั้งเพิ่มเพื่อความปลอดภัยต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า ผู้อยู่อาศัยและตัวบ้านจากไฟรั่ว ไฟดูด ไฟฟ้าลัดวงจร และไฟไหม้

ตู้ไฟฟ้า Siemens ALPHA SIMBOX

เพื่อการันตีความปลอดภัยของบ้านและครอบครัวของคุณ บีกริม. เทรดดิ้ง เราขอแนะนำ ตู้คอนซูเมอร์ยูนิต รุ่น ALPHA Simbox จากซีเมนส์ ผู้นำระดับโลกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกกว่า 174 ปี ตัวตู้ผลิตจากเหล็กเกรดเอคุณภาพสูงหนาพิเศษ พ่นสีฝุ่นอย่างดีจึงทนทานไม่เป็นสนิม ทนรอยขีดข่วนและไม่ติดไฟ มั่นใจได้ในความปลอดภัยสูงสุดด้วยการออกแบบตามมาตรฐาน มอก. และมาตรฐานระดับสากล IEC สินค้ารับประกันยาวนานถึง 12 ปี เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ไฟฟ้าให้คำแนะนำในการเลือกซื้อและดูแลผลิตภัณฑ์ให้ปลอดภัย สนใจติดต่อสอบถามเราได้ ที่นี่

สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3232
Line :  https://lin.ee/ItAW7DS  @bgrimmtrading

เบรกเกอร์ MCCB คืออะไรและทำหน้าที่อะไร

article circuit breaker siemens

เบรกเกอร์ MCCB คืออะไรและทำหน้าที่อะไร

หลายคนอาจสับสนกับชนิดของเบรกเกอร์ที่มีมากมายหลายประเภทตามแรงดันไฟฟ้าและตามการใช้งาน ก่อนที่เราจะพูดถึงเบรกเกอร์แบบ MCCB หรือ Molded Case Circuit Breaker เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าเบรกเกอร์คืออะไร

เซอร์กิตเบรกเกอร์ (circuit breaker) หรือเบรกเกอร์ เป็นอุปกรณ์ป้องกันวงจรไฟฟ้าจากกระแสไฟฟ้าเกินหรือกระแสไฟฟ้าลัดวงจร ทำงานโดยการตัดกระแสไฟฟ้าหลังจากตรวจพบความผิดปกติในวงจรไฟฟ้า โดยจะเปิดและปิดวงจรแบบไม่อัตโนมัติ (สวิตช์เปิด-ปิดด้วยมือ) รวมถึงสามารถเปิดวงจรอัตโนมัติเมื่อกระแสไหลเกินกว่าค่าที่กำหนดไว้ สังเกตได้จากด้ามจับคันโยกที่จะเลื่อนมาที่ตำแหน่ง Trip (อยู่กึ่งกลางระหว่าง ON และ OFF) เมื่อทำการแก้ไขเรียบร้อยก็จะสามารถโยกเลื่อนกลับไปต่อใช้งานได้เช่นเดิมโดยที่ตัวเบรกเกอร์เองไม่ได้รับความเสียหาย ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินหรือลัดวงจรได้เช่นเดียวกับฟิวส์ แตกต่างกันตรงที่ฟิวส์จะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่เมื่อทำการเปิดวงจรหรือตัดวงจร ในขณะที่เบรกเกอร์สามารถที่จะปิดหรือต่อวงจรได้ทันทีหลังจากแก้ปัญหาความผิดปกติในระบบแล้ว

MCCB

MCCB เซอร์กิตเบรกเกอร์สำหรับกลุ่ม Low Voltage

เบรกเกอร์มีหลายชนิดตามพิกัดแรงดันไฟฟ้า ตั้งแต่เบรกเกอร์ขนาดเล็กสำหรับป้องกันวงจรที่มีกระแสไฟฟ้าต่ำ (Low Voltage) หรือพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน ไปจนถึงสวิตช์ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันวงจรไฟฟ้าแรงสูง (High Voltage) ที่จ่ายไฟให้ตัวเมือง

MCCB (Molded Case Circuit Breaker) คือเซอร์กิตเบรกเกอร์ในกลุ่ม Low Voltage สำหรับระบบไฟฟ้าแรงดันต่ำที่น้อยกว่า 1,000V เหมาะสำหรับงานทั่วไป งานเชิงพาณิชย์ อาคารขนาดใหญ่ และโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากมีคุณสมบัติในการทนกระแสลัดวงจร (kA) และสามารถรองรับกระแสที่สูงกว่าเบรกเกอร์ลูกย่อย (MCB) โดยมากมักถูกติดตั้งในตู้โหลดเซ็นเตอร์

3VM/3VA Molded Case Circuit Breakers จาก Siemens

ใครที่กำลังมองหา MCCB ไปใช้งาน เซอร์กิตเบรกเกอร์รุ่น 3VM/3VA ของ Siemens ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ทั้ง 2 รุ่นเป็นอุปกรณ์ป้องกันระบบไฟฟ้าพื้นฐานที่สำคัญต่างๆ แบ่งตามระดับการป้องกันที่ต่างกันเพื่อความเหมาะสมในการใช้งานทั้งในโรงงาน โรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียมและที่พักอาศัย รวมถึงอาคารอื่นๆ ทั่วไป ตัวเบรกเกอร์มีความยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพสูงและมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ได้คุณภาพตามมาตรฐานของซีเมนส์ แบรนด์ชั้นนำระดับสากลจากประเทศเยอรมัน

3VM/3VA มีขนาดเล็กแต่ครอบคลุมฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น

  • ชุดอุปกรณ์พื้นฐาน (Thermal-magnetic principle trip unit) สำหรับป้องกันไฟฟ้ากระแสเกินหรือกระแสลัดวงจร ช่วยลดต้นทุนในการติดตั้ง ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • สามารถทำงานภายใต้อุณหภูมิสูงสุด +50° C โดยไม่มี Derating
  • อุปกรณ์เสริมสามารถใช้เชื่อมต่อกับเซอร์กิตเบรกเกอร์ได้ทุกขนาดทั้งภายในและภายนอก
  • สามารถจัดการข้อมูลทางเทคนิค การติดตั้ง การตั้งค่า หรือว่าซ่อมบำรุงผ่านระบบ QR Code บนสมาร์ทโฟน
  • มีระบบ Current limitation technology พร้อมด้วยระบบสองหน้าคอนแทค (Double-Rotatory contact system) สามารถตัดกระแสลัดวงจรได้รวดเร็วขึ้นมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและมีความปลอดภัยที่เหนือกว่า

สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3232
Line :  https://lin.ee/ItAW7DS  @bgrimmtrading

เทคนิคการเลือกตู้เย็นมินิบาร์สำหรับโรงแรมของคุณ

minibar

เทคนิคการเลือกตู้เย็นมินิบาร์สำหรับโรงแรมของคุณ

ในปัจจุบัน แทบจะทุกโรงแรมไม่ว่าจะเป็นโรงแรมชั้นประหยัดไปจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว จะต้องมี “ตู้เย็นมินิบาร์” จัดวางไว้มุมใดมุมหนึ่งในห้องพักเพื่อให้บริการแขก ด้วยขนาดที่เล็กกระทัดรัดจึงสามารถจัดวางได้อย่างไม่เกะกะพื้นที่ใช้สอย แต่ถึงจะเล็กก็มีความจุที่พอเพียงสำหรับแช่เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยวหรืออาหารเล็กๆ น้อยๆ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับแขกได้เป็นอย่างดี

ต้นกำเนิดมินิบาร์

ตู้เย็นมินิบาร์ ผลิตครั้งแรกโดยบริษัท Siegas ประเทศเยอรมนีในช่วงปี พ.ศ. 2500 โรงแรมแมดิสันในเมืองวอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าแรกที่นำมาใช้งาน ซึ่งในตอนนั้นจะเป็นการให้บริการเพียงเครื่องดื่มทั่วไปและขนมขบเคี้ยวต่างๆ จนกระทั่งในปีพ.ศ. 2517 โรงแรมฮิลตันสาขาฮ่องกง ได้เริ่มนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาบรรจุเพิ่มเติมในมินิบาร์ของทุกห้องพักกว่า 840 ห้อง ส่งผลให้ยอดขายเครื่องดื่มในห้องพักพุ่งสูงขึ้นกว่า 500% และนำไปใช้ในทุกโรงแรมในเครือฮิลตันทั่วโลก เกิดเป็นกระแสในหมู่เครือโรงแรมหรู เรียกได้ว่าแทบจะทุกโรงแรมจะต้องมีตู้เย็นมินิบาร์ไว้ให้บริการแขกในห้องพัก

เลือกตู้เย็นมินิบาร์แบบไหนดี

ตู้เย็นมินิบาร์เป็นตู้เย็นขนาดเล็กแบบประตูบานเดียว มีให้เลือกทั้งแบบบานประตูทึบและบานประตูกระจก ส่วนใหญ่มีความจุไม่เกิน 90 ลิตร จึงประหยัดไฟ มีรูปลักษณ์ที่สวยงามเข้ากับการตกแต่งของโรงแรมทุกสไตล์ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ควรพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้ก่อนเลือกซื้อตู้เย็นมินิบาร์สำหรับโรงแรมของคุณ

  • เหมาะสมกับความต้องการของโรงแรม – ขนาดของตู้เย็นมินิบาร์ควรขึ้นอยู่ขนาดของห้องพัก สำหรับห้องพักโรงแรมขนาดเล็กที่มีขนาดไม่เกิน 40 ตร.ม. ควรเลือกใช้ตู้เย็นมินิบาร์ขนาดเล็ก ประมาณ 60-80 ซม. ความจุประมาณ 80 ลิตร แต่สำหรับห้องพักขนาดใหญ่ สามารถพิจารณาตู้เย็นขนาดเล็ก 2 ประตู ความจุไม่เกิน 150 ลิตร
  • มีฟังก์ชันพื้นฐาน – ทำความเย็นอัตโนมัติ ประหยัดพลังงาน ดูแลรักษาง่าย ไม่มีน้ำทิ้งจากช่องน้ำแข็งให้ต้องกังวลเรื่องน้ำนองพื้น
  • เงียบ ไร้เสียงรบกวน – ลูกค้าที่มาโรงแรมส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อการพักผ่อน จึงต้องมั่นใจว่าเครื่องมีระบบการทำงานที่เงียบไร้เสียงรบกวน ไม่ส่งผลต่อการนอนหลับพักผ่อน
  • คุณภาพและความทนทานในระยะยาว – สินค้าต้องมีคุณภาพ ทนทาน จัดหาอะไหล่ได้ง่าย มีการรับประกันสินค้าและมีบริการหลังการขาย ดังนั้นจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงได้รับการยอมรับจากโรงแรมชั้นนำ

มินิบาร์จาก Onity

ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ตู้เย็นมินิบาร์สำหรับโรงแรมให้เลือกสรรในตลาดจำนวนมาก โดยมีรูปลักษณ์ การทำงาน คุณภาพและราคาที่แตกต่างลดหลั่นกันไป ตู้เย็นมินิบาร์จาก Onity เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพชั้นนำจากยุโรปตามมาตรฐาน ISO ที่ได้รับการไว้วางใจใช้งานในห้องพักกว่า 5 ล้านห้องในโรงแรมกว่า 30,000 แห่งทั่วโลก มาพร้อมคุณสมบัติครบครันไม่ว่าจะเป็น

  • มีรูปแบบให้เลือกหลากหลาย – ไม่ว่าจะเป็นบานประตูฝาทึบและบานกระจกสลับด้านเปิดปิดได้ ภายในออกแบบด้วยชั้นวางเลื่อนได้ 2 ชั้น ปรับเปลี่ยนการตั้งวางได้ถึง 5-8 แบบตามแต่ละรุ่น เพื่อการจัดวางทั้งแนวตั้งแนวนอนได้อย่างลงตัว มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 30 ถึง 60 ลิตรให้เหมาะสมกับทุกความต้องการ
  • ประหยัดพลังงาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม – กินไฟน้อยเพียง 0.96 kWh ปราศจากสาร CFC, HDFC, HFC และ PFC ที่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน แต่ใช้ไซโคลเพนเทน (Cyclopentane) ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่ละลายและกลายเป็นไอได้ง่าย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • เงียบ ไร้เสียงรบกวน – ใช้ระบบทําความเย็นแบบดูดซึมซึ่งไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวน จึงมั่นใจได้ถึงความเงียบ
  • มีอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย – มีล้อเลื่อน ล็อค และบานเลื่อนฝาตู้เย็นยึดติดกับฝาตู้เฟอร์นิเจอร์
  • มั่นใจได้ในการดูแลหลังการขาย – มินิบาร์ทุกรุ่นมีการรับประกัน 2 ปี เรามีทีมงานบริการหลังการขายที่พร้อมดูแลคุณอย่างรวดเร็ว และมีอะไหล่สำหรับมินิบาร์ทุกรุ่นไม่น้อยกว่า 10 ปีจากโรงงานผู้ผลิต จึงมั่นใจได้ในการใช้งานระยะยาว

บี.กริม เทรดดิ้ง เราเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของระบบล็อคประตู ตู้เซฟ และมินิบาร์สำหรับโรงแรมจากแบรนด์ Onity ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปีในประเทศไทย เราพร้อมให้คำปรึกษาในการเลือกโซลูชั่นสำหรับโรงแรมทุกระดับและทุกขนาดเพื่อความสะดวกสบายและปลอดภัยที่สุดสำหรับโรงแรมของคุณ สนใจติดต่อเราได้เลย ที่นี่

สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3241
Line :  https://lin.ee/ItAW7DS  @bgrimmtrading

Philips Hue หลอดไฟอัจฉริยะ แสงสว่างสู่บ้านแห่งอนาคตของคุณ

Philips hue

Philips Hue หลอดไฟอัจฉริยะ แสงสว่างสู่บ้านแห่งอนาคตของคุณ

ในช่วงปีหลังๆ มานี้เรามักได้ยินคอนเซ็ปบ้านอัจฉริยะ หรือ Smart Home เทรนด์ที่อยู่อาศัยยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีในการควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ (Smart Device) ในบ้านไม่ว่าจะเป็น ประตูบ้าน แอร์ ผ้าม่าน ทีวี เครื่องเสียง กล้องวงจรปิด ไปจนถึงไฟฟ้า และน้ำประปา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้พักอาศัยมากยิ่งขึ้น

ใครที่กำลังสนใจอยากปรับเปลี่ยนบ้านตัวเองเป็นบ้านแห่งอนาคต ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปสัมผัสกับหลอดไฟอัจฉริยะ (Smart Light Bulbs) จาก Philips ที่เมื่อขึ้นชื่อว่าอัจฉริยะแล้ว มันคงไม่ได้ทำได้แค่ให้แสงสว่างเหมือนหลอดไฟปกติทั่วไปอย่างแน่นอน

ควบคุมอย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วย Philips Hue Bridge ระบบแสงสว่างอัจฉริยะ

วัตถุประสงค์หลักของการพัฒนาระบบไฟอัจฉริยะคือการมุ่งเน้นให้เกิดการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม รวมถึงให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น Philips Hue Bridge ซึ่งเป็นระบบควบคุมหลอดไฟ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมแสงไฟได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การใช้งานระบบแสงสว่างที่คุณได้รับตลอดไป

  • ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน – ควบคุมทุกการทำงานและฟีเจอร์ต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของคุณได้จากทุกที่ เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Philips Hue บนระบบ IOS และ Android และเชื่อมต่อกับ Phillips Hue Bridge ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างหลอดไฟกับแอพพลิเคชั่น
  • จัดการหลอดไฟได้สูงสุด 50 ดวง – เพียงเลือกหลอดไฟ Philips Hue ตามจำนวนที่คุณต้องการและเชื่อมต่อกับ Philips Hue Bridge บ้านทั้งหลังของคุณก็พร้อมทำงานด้วยแอพพลิเคชั่น Philips Hue อย่างง่ายดาย
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้สูงสุด 12 เครื่อง – ยกระดับประสบการณ์การเชื่อมต่อระบบแสงสว่างของคุณด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมต่างๆ ในกลุ่ม Philips Hue (เช่น สวิตช์หรี่ไฟ, เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว) ได้สูงสุดถึง 12 เครื่อง

ไม่ใช่แค่เปลี่ยนสี แต่เพื่อสร้างบรรยากาศที่สอดรับกับทุกกิจกรรม

  • หลับและตื่นอย่างเป็นธรรมชาติ – Philips Hue ช่วยให้คุณเริ่มต้นวันใหม่อย่างมีประสิทธิภาพกับการตื่นนอนยามเช้าอย่างเป็นธรรมชาติผ่านการใช้แสงสีขาวในโทนและอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยการปรับไล่ความเข้มของแสงขึ้นเรื่อยๆ ตามบรรยากาศของแสงแดดธรรมชาติ แทนการใช้เสียงจากนาฬิกาปลุก และใช้แสงโทนสีเหลืองเพื่อให้คุณผ่อนคลายและเตรียมพร้อมร่างกายสำหรับการเข้านอน
  • อ่านหนังสืออย่างมีสมาธิ – แสงไฟสีขาวโทนอบอุ่นจะช่วยให้คุณอ่านหนังสือได้อย่างมีสมาธิมากขึ้น
  • เพิ่มสีสันให้กับทุกกิจกรรม – เติมสีสันและออกแบบห้องเพื่อสร้างบรรยากาศภายในบ้านให้เหมาะสมกับแต่ละกิจกรรมได้ง่ายๆ ด้วยการปรับค่าสีได้สูงสุดถึง 16 ล้านสี

เปิด-ปิดอัตโนมัติ

ด้วยเทคโนโลยี Geofencing คุณสามารถตั้งค่าให้ไฟเปิดต้อนรับเมื่อกลับมาถึงบ้านหรือปิดโดยอัตโนมัติเมื่อคุณออกจากบ้าน หรือจะเลือกปรับตั้งเวลาเปิดปิดเองก็ทำได้อย่างง่ายดาย

สั่งการด้วยเสียง

รองรับการสั่งการด้วยเสียงผ่าน Siri, Google Assistant และ Amazon Alexa เพื่อให้คุณเปิด-ปิด หรือหรี่ไฟเพื่อสร้างบรรยากาศที่ต้องการ เรียกใช้ค่าที่ตั้งไว้ เปลี่ยนสี และการทำงานอื่นๆ อีกมากมาย ได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยแทบจะไม่ต้องยกนิ้วเลย

ยกระดับความบันเทิงของคุณด้วย Hue sync box

เชื่อมต่อสื่อความบันเทิงของคุณกับโคมไฟอัจฉริยะ เพื่อการดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมที่สะท้อนสีสันรอบตัวและทุกจังหวะอย่างลงตัว

อายุใช้งานที่ยาวนาน

Philips Hue มากับอายุการใช้งานถึง 25,000 ชม. ช่วยให้คุณหมดกังวลกับการเปลี่ยนหลอดไฟบ่อยครั้ง

บี. กริม เทรดดิ้ง ยินดีให้คำปรึกษา เราเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Philips สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ช่วยให้ที่พักอาศัยของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น มั่นใจด้วยการรับประกันสินค้าและความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล ปรึกษาเราได้เลย ที่นี่

สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3232