ระบบปรับอากาศในอาคาร (Chiller) และการบำรุงรักษา
ชิลเลอร์ (Chiller) หรือ ระบบปรับอากาศในอาคาร ที่มักใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือห้างสรรพสินค้า เป็นระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ที่มีขนาดใหญ่ ทำหน้าที่ผลิตน้ำเย็นหรือปรับลดอุณหภูมิน้ำเพื่อจ่ายไปยังเครื่องปรับอากาศต่าง ๆ ในอาคาร ชิลเลอร์เป็นระบบปรับอากาศมีประสิทธิภาพสูง ผลิตความเย็นได้อย่างรวดเร็วและสามารถกระจายไปยังจุดต่าง ๆ ได้พร้อมกันอย่างทั่วถึง จึงนิยมใช้เป็นระบบทำความเย็นในโรงงานหรือระบบปรับอากาศในงานอุตสาหกรรม ที่ต้องการความเย็นในการควบคุมคุณภาพการผลิตสินค้า หรือใช้เป็นส่วนประกอบในการทำงานของเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรวมถึงยังประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย
ชิลเลอร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบระบายความร้อนด้วยอากาศ (Air Cooled Chiller) และแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ (Water Cooled Chiller) ทั้ง 2 ระบบจะมีวงจรการทำงานและอุปกรณ์พื้นฐานใกล้เคียงกัน คือ คอมเพรสเซอร์ (Compressor) แผงระบายความร้อน (Condenser) แผงคอยล์เย็น (Evaporator) ต่างกันที่ Air Cooled Chiller จะใช้อากาศในการระบายความร้อนจึงมีแผงระบายความร้อนขนาดใหญ่และพัดลม ในขณะที่ Water Cooled Chiller จะใช้หอหล่อเย็นหรือหอระบายความร้อน (Cooling tower) เพื่อลดอุณหภูมิน้ำเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ในระบบ
การบำรุงรักษาระบบปรับอากาศในอาคาร (Chiller)
เพื่อคงประสิทธิภาพในการทำงานและเพื่อความปลอดภัยของระบบปรับอากาศในอาคาร ควรมีการตรวจเช็คและบำรุงรักษาอุปกรณ์อย่างเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าระบบและองค์ประกอบแต่ละส่วนพร้อมใช้งานอยู่เสมอ เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และเพิ่มอายุการใช้งานของระบบ
เครื่องอัดน้ำยา (Compressor)
เป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดของ Chiller หรือระบบปรับอากาศในอาคาร ทำหน้าที่อัดสารทำความเย็นซึ่งอยู่ในรูปแบบของก๊าซเย็นความดันต่ำ
- ต้องมีฝาครอบเพื่อป้องกันอันตรายโดยมีน็อตยึดอย่างมั่นคง ไม่มีการชำรุดหรือผุกร่อน
- ไม่มีคราบน้ำมัน จาระบี หรือเศษสิ่งปฏิกูล
- ในขณะที่เครื่องทำงานจะต้องไม่มีเสียงดังหรือสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
- วาล์วรักษาความดันต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี มีสวิตช์ตัดอัตโนมัติเมื่อเกิดความดันน้ำมันต่ำหรือสูงเกินไป
- ขณะวัดความดันหากสารทำความเย็นมีปริมาณลดลง อาจมีการรั่ว ควรรีบหาจุดรั่วและซ่อมแซมทันที
เครื่องควบแน่น (Condenser)
- มีการติดตั้งลิ้นนิรภัย (Safety Valve) ทั้งด้านขาเข้าและขาออกที่อยู่ในสภาพใช้ดี ไม่มีการชำรุด โดยสามารถทำงานได้เมื่อมีความดันเกิน 120% ของความดันสูงสุดของอุปกรณ์
- มีฝาครอบที่พัดลมส่งกำลังและอยู่ในสภาพการใช้งานที่ดี
- ไม่มีร่องรอยคราบเปื้อนที่บริเวณจุดต่อและท่อน้ำยาทำความเย็น หรือมีกลิ่นฉุนของแอมโมเนีย หากพบว่ามีการรั่วต้องรีบทำการตรวจสอบและแก้ไขซ่อมแซม
- ไม่มีรอยแตกรั่ว อุดตัน หรือเสื่อมสภาพ เนื่องจากจะไม่สามารถระบายความร้อนได้
แผงคอยล์เย็น (Evaporator)
- มีการติดตั้งลิ้นนิรภัย (Safety Valve) ทั้งด้านขาเข้าและขาออกที่อยู่ในสภาพใช้ดี
- ตรวจสอบรอยรั่วไหล ต้องไม่มีคราบน้ำมัน หรือกลิ่นฉุนของแอมโมเนีย
- ฝาครอบชุดพัดลมเป่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดีและไม่สั่นสะเทือน
- สภาพถังพักและท่อน้ำยาทั้งทางด้านส่งและด้านดูด ไม่มีการผุกร่อนหรือเป็นสนิม
หอหล่อเย็นหรือหอระบายความร้อน (Cooling Tower)
- ตรวจสอบเกจวัดแรงดัน (Pressure) ของมอเตอร์ปั๊มอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเช็คความถูกต้องของระดับแรงดัน หากมอเตอร์ตัวใดชำรุดต้องรีบแก้ไขโดยด่วนเพราะอาจเกิดความร้อนสะสมเนื่องจากไม่มีน้ำขึ้นไปที่คูลลิ่งทาวเวอร์เพื่อระบายความร้อน
- คุณภาพของน้ำที่จะนำมาใช้เพื่อผลิตน้ำเย็นนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบคุณภาพของน้ำในระบบอย่างสม่ำเสมอ หากน้ำสกปรกความสามารถในการถ่ายเทความร้อนจะลดลง แนะนำให้ทิ้งน้ำเย็นที่หมุนเวียนอย่างน้อยปีละครั้ง และควรใส่สารกันสนิมเมื่อเติมน้ำใหม่
- ตรวจสอบคราบตะกรัน สนิม อาจใช้น้ำยาเคมีเพื่อป้องกันและปรับคุณภาพน้ำ
หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้งาน Chiller บี.กริม เทรดดิ้ง เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เราเป็นตัวแทนจำหน่ายแอร์แคเรียร์อย่างเป็นทางการ เราจำหน่ายและพร้อทให้บริการทั้งระบบ Water Cooled Chiller และ Air Cooled Chiller คุณภาพสูง คุณจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ทนทาน ประหยัดพลังงาน รวมถึงบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างครบวงจรโดยพนักงานมืออาชีพ ติดต่อเราได้เลย ที่นี่
สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3000
Line Official Account : https://lin.ee/ItAW7DS @bgrimmtrading