9 เทคนิค ใช้แอร์สบายใจไม่หวั่นค่าไฟ
ตั้งแต่ทำงานที่บ้านหรือ Work From Home หลายคนอาจพบว่าค่าไฟบ้านตัวเองพุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ หนึ่งในสาเหตุหลักก็คือการเปิดแอร์ทั้งวันทั้งคืนนั่นเอง แต่จะให้นั่งทำงานหรือนอนแบบร้อน ๆ ก็คงไม่ไหว แล้วเราจะเปิดแอร์ประหยัดไฟได้อย่างไรบ้าง? นอกเหนือจากการเลือกใช้แอร์ประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือแอร์ระบบอินเวอร์เตอร์แล้ว เรายังมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ ไม่ต้องมานั่งกุมขมับกันตอนสิ้นเดือน
1. วางคอมเพรสเซอร์ในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเท
หลายคนอาจสงสัยว่าตำแหน่งติดตั้งคอมเพรสเซอร์เกี่ยวข้องกับการเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟอย่างไร ที่เกี่ยวก็เพราะว่าหน้าที่ของคอมเพรสเซอร์คือระบายความร้อน การวางคอมเพรสเซอร์กลางแดดหรือในที่ที่ลมถ่ายเทไม่สะดวก จะทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนัก ดังนั้นสถานที่ที่เหมาะสมในการติดตั้งคือที่ร่ม ไม่โดนแสงแดด และมีอากาศถ่ายเท เมื่อคอมเพรสเซอร์สามารถระบายอากาศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็เป็นการช่วยประหยัดค่าไฟนั่นเอง
2. ล้างแอร์โดยช่างทุก 6 เดือน
แม้ว่าเราจะสามารถถอดฟิลเตอร์ทำความสะอาดแบบง่าย ๆ ได้ด้วยตนเอง แต่ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำการถอดล้างภายในอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน เพื่อชะล้างฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจกีดขวางการทำงานของเครื่อง ทำให้แอร์ทำงานได้อย่างเต็มที่ แต่ในกรณีที่บ้านของคุณอยู่ติดถนนหรือใกล้กับบริเวณที่มีการก่อสร้าง อาจเพิ่มการทำความสะอาดเป็นทุก 2-3 เดื
3. เปิดประตูหน้าต่างก่อนเปิดแอร์เพื่อระบายอากาศ
ก่อนเปิดแอร์สัก 15 นาที ควรเปิดประตูและหน้าต่าง เพื่อถ่ายเทอากาศและความร้อนที่สะสมอยู่ภายในห้องออกไปภายนอก และยังช่วยลดกลิ่นอับได้อีกด้วย ทำให้ห้องเย็นเร็วขึ้นเมื่อเปิดแอร์ เครื่องไม่ต้องทำงานหนัก เป็นอีกหนึ่งวิธีของการเปิดแอร์ประหยัดไฟแบบง่าย ๆ
4. ปิดประตู หน้าต่างให้สนิทหลังเปิดแอร์
เมื่อเปิดแอร์เรียบร้อย อย่าลืมปิดประตู หน้าต่าง รวมถึงช่องระบายอากาศต่าง ๆ ให้สนิท ตรวจสอบอย่าให้มีช่องว่างให้อากาศภายนอกเล็ดลอดเข้ามาได้ ไม่เช่นนั้นเครื่องจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่
5. ตั้งอุณหภูมิที่ 26 หรือ 27 องศา
เราอาจจะคุ้นกับคำแนะนำว่าการเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟคือการตั้งอุณภูมิที่ 25 องศาซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นค่ามาตรฐานที่ให้ความเย็นที่กำลังพอดี จริง ๆ แล้วการตั้งอุณหภูมิที่ สูงกว่า 25 เล็กน้อย หรือที่ประมาณ 26 – 27 องศาจะช่วยประหยัดไฟโดยที่ยังคงความเย็นสบาย เนื่องจากงานวิจัยระบุว่า การเพิ่มอุณหภูมิขึ้น 1 องศาเซลเซียส ถือเป็นการเปิดแอร์ประหยัดไฟ สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 10% ต่อปีเลยทีเดียว
6. ไม่ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนในขณะเปิดแอร์
การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อน เช่น กาต้มน้ำ กระทะไฟฟ้า เตารีด ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อทำให้อุณหภูมิในห้องเย็นขึ้น ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ให้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้
7. พยายามอย่าเพิ่มความชื้นในห้อง
นอกจากปรับอุณหภูมิในห้องให้เย็นลง แอร์ยังต้องกำจัดความชื้นต่าง ๆ เพื่อให้อากาศในห้องแห้งที่สุด ซึ่งถ้าในห้องมีความชื้น ก็จะทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้นและกินไฟมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้เกิดความชื้นในห้อง เช่น การวางต้นไม้ในห้อง การตากผ้า การเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้สามารถช่วยประหยัดไฟให้กับคุณได้เช่นกัน
8. ปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง 30 นาที
ถ้ากะเวลาที่จะเลิกใช้งานแอร์ได้ การปิดล่วงหน้าซัก 30 นาทีถึง1 ชม. จะทำให้แอร์ได้พักเครื่องเร็วขึ้น และไม่ต้องกลัวว่าถ้าปิดแอร์แล้วอากาศจะร้อนขึ้นทันที เพราะความเย็นจะยังคงกระจายตัวอยู่ในห้องได้ในเวลาดังกล่าว โดยคุณสามารถเปิดพัดลมเบา ๆ ช่วยเพิ่มความเย็นแทนได้
9. ใช้งานเท่าที่จำเป็น
วิธีที่ง่ายและให้ผลดีที่สุดคงหนีไม่พ้นการเปิดใช้งานเท่าที่จำเป็น บางคนเปิดแอร์ตลอดเวลาด้วยความเคยชินทั้ง ๆ ที่อากาศข้างนอกไม่ได้ร้อน แถมเปิดพร้อมกันหลายห้อง ถ้าคุณเป็นคนนึงที่มีอาการติดแอร์ อาจลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เลือกเปิดเฉพาะตอนกลางวันที่อากาศร้อนมาก เมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวได้คุณอาจจะรู้สึกว่าการนอนรับลมธรรมชาติในตอนกลางคืนสบายกว่า แถมยังสบายใจยิ่งขึ้นไปอีกตอนเห็นบิลค่าไฟ
เป็นยังไงบ้างคะกับเทคนิคการเปิดแอร์ให้ประหยัดไฟแบบง่าย ๆ หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม บี.กริม เทรดดิ้ง เรามีทีมงานมืออาชีพที่คอยให้คำปรึกษา เราเป็นตัวแทนจำหน่ายแอร์แคเรียร์ อย่างเป็นทางการ มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย ทนทาน ประหยัดพลังงาน รวมถึงบริการทั้งก่อนและหลังการขายอย่างครบวงจรโดยพนักงานมืออาชีพ ติดต่อเราได้เลย ที่นี่
สอบถามข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
https://bgrimmtechnologies.com/contact-us/
อีเมล: [email protected]
เบอร์โทรศัพท์ : +66 (0) 2710 3000
Line Official Account : https://lin.ee/ItAW7DS @bgrimmtrading